top of page

War for the Planet of the Apes รีวิว : ปิดไตรภาคได้อย่างสมบูรณ์

♦️ยังคงรักษามาตรฐานอารมวานรได้ประทับใจ♦️ ⛔️เหมือนเดิมนะครับ ขี้เกียจอ่านยาวๆเลื่อนไปย่อหน้าสุดท้ายได้เลย

================== เรื่องราวภาคนี้พามาสู่จุดจบไตรภาคของหนังพิภพวานรระหว่างมนุษย์และวานรพันธุ์ใหม่ที่ต่างฝ่ายก็ดิ้นรนต่อสู้เพื่อความอยู่รอดของเผ่าพันธุ์ของตัวเอง ซีซ่าที่พยายามรักษาความรุนแรงของความขัดแย้งไว้ตั้งแต่ภาคสอง แต่เมื่อเขาต้องเผชิญความสูญเสียอย่างหนักกับตัวเอง การแก้แค้นคือจุดมุ่งหมายหลักที่ซีซ่าต้องชนะให้ได้ Plot : ดีไซน์เหมาะกับจุดจบของไตรภาคได้ดี เปิดเรื่องเน้นย้ำความขัดแย้งที่ต่อเนื่องมาจากภาคสอง พาไปสู่เหตุผลว่าทำไมต้องรบ มีการโฟกัสตอกย้ำเข้าไปอีกจากภาคสองที่ไม่ได้ลงรายละเอียดมากนัก เกี่ยวกับไวรัสที่แพร่กระจายออกไปและทำร้ายเฉพาะมนุษย์ สู่จุดสิ้นสุดของเผ่าพันธุ์ที่ต้องดิ้นรนกัน การเดินเรื่อง เล่าเรื่องตอนต้นแอบน่าเบื่อเล็กน้อย ก็กลัวว่าจะเป็นหนังที่จะรู้สึกไม่โอเคอีก!!!! แต่เมื่อได้สัมผัสจากช่วงกลางเป็นต้นไป คือดีมาก ทั้งดราม่า ทั้งวางแผน ทั้งแอคชั่นปะทะกันอย่างดุเดือด มีการวางเงื่อนงำเอาไว้ให้ลุ้นอยู่หลายปมว่าหนังอาจจะหักมุมหรือไม่ ความหลากหลายมิติในเรื่องทำให้ความน่าสนใจมีมาอย่างต่อเนื่องน่าติดตาม ตัวละคร มีการเปิดตัวละครหลักผู้กองแห่งความโหดร้าย สมบทบาทอินเนอร์ความเหี้ยมที่สัมผัสได้ชัด ลบภาพตัวฮาออกไปได้หมดเกลี้ยงจากเรื่องก่อนๆ

แม่หนูน้อย Nova ตัวละครใหม่ที่เข้ามาช่วยอารมหนังให้ดูมีมิติเพิ่มเข้าไป จากที่ความสัมพันธ์ค่อนข้างดำก็ค่อยๆเทา มาช่วยให้บรรยากาศความเป็นมิตรของวานรกับมนุษย์ดีขึ้นไปได้เยอะพร้อมส่งเสริมความให้คนดูเชียรวานรมากขึ้นไปอีก!! อีกตัวละครที่ลืมไม่ได้กับ "Bad Apes" มีความ comedy มากที่สุดเท่าที่เคยมีมาในไตรภาค สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะได้เยอะ มุกหลายๆตัวผ่านและทำได้ดี และตัวละครที่สำคัญที่สุดกับ Andy Serkis ที่ถ่ายทอดความเป็นสิ่งมีชีวิตวานรที่ฉลาดออกมาอย่างดีเยี่ยมไม่มีหลุดมาตรฐาน ถ้าไม่ได้ดูเบื้องหลังมาก่อนก็อาจพลาดว่าเอาวานรมาแสดงจริงๆ บวกกับเทคโนโลยีการถ่ายทำที่เรียกว่า "Motion capture" ที่พัฒนาไปอีกจากภาคหนึ่งและสอง รายละเอียดลงหนักไปถึงเส้นขน ไปถึงเม็ดหิมะที่หล่นมาสัมผัสกับเส้นขน พูดได้เลยว่าซีซ่าจะไม่สามารถโลดแล่นมาถึงสามภาคอย่างได้จนถึงตอนนี้ถ้าขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไป ทั้งแอนดี้ เซอกิสและเทคโนโลยี Motion Capture ที่ทันสมัย รู้สึกทึ่งเหมือนเพราะก็เพิ่งรูว่าจริงๆแล้วเราคุ้นกับแอนดี้มานานมากกับบทบาทที่เราไม่มีทางลืมอย่าง"กอลลั่ม" นี่ก็คงเป็นเหตุผลที่พวกเราจะไม่แปลกใจว่าทำไมบทบาทวานรที่แสนฉลาดตัวนี้ถึงแสดง emotion ออกมาผ่านใบหน้าและแววตาได้ชัดเจนขนาดนี้ ในส่วนของฉากแอคชั่นนั้น ไม่ได้ทำให้ผิดหวังเลยตั้งแต่ช่วงแรกของหนังกับการปะทะกันด้วยปืนและคมหอกมีทั้งความทันสมัยของการใช้ปืนและความคลาสสิคของการใช้หอกไม้ที่ดีไซน์การรบได้คูลมากๆๆ อาจจะคิดกันไม่ออกว่าจะไปสู้กันได้ยังไงต้องไปดูเอง จากฉากเปิดเรื่องไปจนถึงฉากปิดด้วยความอลังของบทที่ส่งต่อมาในตอนจบ และความอลังของกองทัพมนุษย์ชุดสุดท้ายบนโลก ไม่น่าเชื่อว่าการวางแผนการของวานรจะทำได้สนุกและน่าติดตามขนาดนี้

สรุปเลย : ไม่ผิดหวังกับภาคสามตอนจบของหนังไตรภาคเรื่องนี้ ตั้งแต่ภาคหนึ่งสองและสามต่างมีมุมมองและเสน่ที่ไม่แพ้กันเลย โดยเฉพาะภาคสุดท้ายกับ emotion ของวานรชัดๆแบบนี้ กับมิติของนักแสดงที่ชัดเจนและเรื่องราวที่น่าติดตาม ฟาสให้ 8/10 หักคะแนนความเรียบง่ายแอบเบื่อๆในช่วงต้นๆออกไป หลังจากนั้นมีแต่ความสนุก ข่าวแว่วว่าภาคสี่น่าจะมีต่ออีก ลุ้นกันไปละกันเนอะ #WarforthePlanetoftheApes Directed by : Matt Reeves Written by : Mark Bomback Production company: Chernin Entertainment Starring : Andy Serkis, Woody Harrelson, Steve Zahn ------ Nice to share my life with you----- ••• MickeyFest•••


Comments


You Might Also Like:
DSC04759
DSC04747
DSC04749
DSC04757
07-1-17-4006
07-1-17-4006
07-1-17-4006
07-1-17-4006
About Me

เคยไหมที่ในหนึ่งวัน เรามีช่วงเวลาที่อยากจะบอกเล่าให้คนอื่นได้รู้ด้วย อยากแชร์ให้คนอื่นที่มีความสุข ได้ตื่นเต้นและแลกเปลี่ยนความคิดไปกับกับเรา แต่คนรอบข้างอาจจะไม่มีเวลาแบบนั้น ........

 

Read More

 

Search by Tags

© 2023 by Going Places. Proudly created with Wix.com

bottom of page