Dunkirk รีวิว; อารมไม่มีหลุด บรรยากาศสุดยอด

♦️ไม่สนุก เกร็ง เครียด แต่อิ่ม.... มาก♦️ ⛔️เหมือนเดิมนะครับ ขี้เกียจอ่านยาวๆ เลื่อนไปย่อหน้าสุดท้ายได้เลย 😁 ===================== เหตุการณ์การอพยพของ Dunkirk ที่โดนนาซีล้อมและถูกรุมโจมตีทั้งทางบกและและทางอากาศ พร้อมถูกบีบให้ยอมแพ้

จึงต้องขอความช่วยเหลือจากพลเรือนเพื่อส่งเรือเข้ามาอพยพทหารทั้งหมดกลับบ้าน

ชอบความแปลกใหม่ของการสื่อสาร ที่สื่อสารตั้งแต่เริ่มต้นว่าจะมีทั้งหมดสามเหตุการณ์ ทางบก ทางเรือ และทางอากาศ และแต่ละเหตุการณ์นั้นดำเนินไปใช้เวลาเท่าไหร่ ถึงแม้จะใช้เวลาที่ไม่เท่ากันและตัดภาพไปมาก็ไม่ได้ทำให้เสียอรรถรสเลย แต่กลับหยิบยื่นความรู้สึกของตัวแสดงในแต่ละเหตุการณ์ได้อย่างต่อเนื่อง

และการสื่อสารอีกอย่างนึงของหนังคือ ไม่ได้เจาะจงไปที่ตัวละครใดตัวละครหนึ่งอย่างชัดเจน ไม่ได้เล่าไม่ได้บรรยายความเป็นมาของแต่ละบุคคล แต่กลับบรรยายและโฟกัสไปที่เหตุการณ์โดยภาพรวมของการอพยพ น่าแปลกที่ถึงแม้เราจะไม่ได้รู้จักตัวละครไหนเป็นพิเศษแต่กลับเหมือนเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นไม่ยาก

และก็สมราคาคุยเพราะจุดเด็ดของทั้งเรื่องอยู่ที่มุมกล้องเพื่อการบรรยายเหตุการณ์ในแต่ละมุมมองในเหตุการณ์นึงได้ครบถ้วน บนบกเราก็ได้เห็นระเบิดถูกเทลงมารอบๆตัวและลุ้นกับความเป็นความตายนั้น ในน้ำมุมมองการถูกโจมตี การทะลักของน้ำ ความเอียงวิถีการล่มของเรืออย่างชัดเจน และที่สำคัญกับมุมมองนักบิน ยิ่งได้ดูเบื้องหลังการถ่ายทำยิ่งอึ้งกับการติดกล้องทั้งในและนอกเครื่องบิน ให้คนดูได้สัมผัสกับมุมมองของบุคคลที่หนึ่งได้อย่างเต็มตา

ในภาคของการแสดงนั้น ต้องยอมรับกับทุกตัวละครจริงๆเพราะทั้งเรื่องนั้นบทพูดน้อยมาก ทุกคนใช้อารมสีหน้าและความสามารถในการถ่ายทอดล้วนๆ และเราเชื่อ (สปอยล์เล็กๆ : มีฉากนึง หัวหน้าน้ำตาซึมอยู่ในเบ้าตา โดนมาก)

และอีกอย่างเป็นหนังสงครามเรื่องนึงที่ไม่มีภาพเลือด ภาพร่างกระเด็นกระดอนให้เห็น แต่ด้วยการสื่อสารที่ชัดเจนของมุมภาพและการทำงานของเสียงประกอบที่เข้ากันนั้น ทำให้เราสัมผัสกลิ่นไอของสงครามและความโหดร้ายของมันได้ดีมากๆ

สุดท้าย : อิ่มกับงานภาพ ตระการตาสุดๆกับงานกำกับ อินมากๆกับเหตุการณ์ในตอนนั้น การบอกเล่าเรื่องราวที่ละเอียดของผู้กำกับที่นำเสนอหนึ่งเหตุการณ์ในมุมมองทั้งสามบก น้ำและอากาศผ่านชุดความคิดของบุคคลในแต่ละจุดได้อย่างสมบูรณ์ สามารถอินเหมือนเข้าไปอยู่ในเหตุการณ์นั้นได้จริง เราสัมผัสได้กับบรรรยากาศและความกลัวการตาย กับความหวังที่จะได้กลับบ้านของทหาร และกับความรักชาติที่พลเรือนมีให้กับชาติและพลทหารของพวกเขา 9/10 หักคะแนนเล็กน้อยกับการที่อารมเราไม่สุดกับใครสักคนการตัดภาพไปมาในหลายๆเหตุการ์อาจทำให้รับสารได้ไม่หมด และหลุดโฟกัสไปในหลายๆจุด และตอนจบไม่พีคเท่าไหร่ นอกนั้นคือ Perfect ✌🏻

#Dunkirk Directed by : Christopher Nolan Produced by : Emma Thomas, Christopher Nolan Written by : Christopher Nolan Production company : Syncopy Inc. Starring : * Fionn Whitehead * Tom Glynn-Carney * Jack Lowden * Harry Styles ------ Nice to share my life with you----- ••• MickeyFest•••