Director: Paul Currie Production: Walk The Walk Entertainment Written: Nathan Parker and Todd Stein Stars: Michiel Huisman, Teresa Palmer, Sam Reid
![](https://static.wixstatic.com/media/d89829_14d55fb103524e8aa90fda5c10357cec~mv2_d_1877_1597_s_2.jpg/v1/fill/w_980,h_834,al_c,q_85,usm_0.66_1.00_0.01,enc_auto/d89829_14d55fb103524e8aa90fda5c10357cec~mv2_d_1877_1597_s_2.jpg)
เรื่องย่อ : The story follows Dylan Branson (Michiel Huisman), a man whose life is permanently derailed when an ominous pattern of events repeats itself in exactly the same manner every day, ending at precisely 2:22 pm. When he falls for Sarah (Teresa Palmer), a beautiful woman whose life is threatened by these strange events, Dylan must solve the mystery of 2:22 to preserve a love whose second chance has finally come. cr: wikipedia
ดูแล้วเป็นไง:
หลังจากดูจบแล้ว ความคิดเห็นตรงกันคือเป็น Romantic / Triller
![](https://static.wixstatic.com/media/d89829_eb0eef67181f40dcb367bd19a31d77fd~mv2.jpg/v1/fill/w_501,h_294,al_c,q_80,enc_auto/d89829_eb0eef67181f40dcb367bd19a31d77fd~mv2.jpg)
หนังรักพล๊อตไม่ซ้ำใคร เกี่ยวกับความลับของดวงดาวและชะตาชีวิตมนุษย์บนโลก
หนังเปิดตัวพระเอกกับอาชีพการเป็นผู้ควบคุมการขราจรทางอากาศบนหอบังคับการบิน
ที่ต้องคอยประสานงานกับนักบินว่าให้เครื่องลงหรือขึ้นตอนไหนและรันเวย์ไหน และเหมือนว่าพระเอกเราจะมีพรสวรรค์เรื่องการมองภาพรูปแบบต่างๆได้ล่วงหน้า จึงเหมือนจะรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้นในอนาคตถ้ามีรูปแบบ (pattern) และด้วยพรสวรรค์นี้ทำให้เขาได้ช่วยชีวิตคนในเครื่องบินทั้งสองลำที่เกือบจะขึ้นลงชนกัน และนำเข้าสู่รูปแบบการใช้ชีวิตอีกมากมายที่เขาต้องหาคำตอบว่ามันคืออะไรและเกี่ยวข้องกับเขาและชีวิตของคนที่เขารักยังไง
Plot : โอเคเลยนะ แปลกใหม่น่าสนใจดี เล่นกับความรัก โชคชะตา การเกิดการดับของดวงดาว ท้องฟ้า โยงมากับชะตาชีวิตของมนุษย์ ไม่ค่อยเห็นหนังฝรั่งเอาเรื่องความเชื่อแบบนี้มาเล่นสักเท่าไหร่
การดำเนินเรื่อง: ก็ไม่ผิดหวัง จากช่วงแรกให้เครดิตความน่าสนใจไปที่พระเอกกับบทควบคุมการจราจรของเครื่องบิน ทำให้อาชีพนี้น่าสนใจอยู่ไม่น้อย พระเอกต้องทำการบ้านกับอาชีพนี้ดีกับศัพท์เฉพาะและรูปแบบการทำงานที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว
ต่อจากการเล่าเรื่องที่มาของพระเอก มาสู่ฉากโรแมนติกที่หวานมากกกก แค่ทั้งคู่ยืนอยู่ด้วยกัน ความเป็นแฟนกันที่รักกันมากมันแสดงออกมาอย่างชัดเจนจนไม่ต้องอธิบายอะไรเพิ่มเติม ในช่วงนี้ที่หนังหวานหยด จนอดคิดไม่ได้ว่าจะโดนหลอกมาดูหนังรักอย่างเดียวหรือเปล่าเนี่ย
จากตอนแรกทีคิดว่าจะไปทาง triller sci-fi ดูไปสักพักต้องหันหลังกลับมาทาง romantic อย่างไว เพราะฉากช่วงกลางของเรื่องทำได้ละมุนมาก อมยิ้มได้ตลอดกับความน่ารักของสองพระนางที่ดูยังไงก็เข้ากัน
จนดำเนินมาถึงช่วงต้องไขปริศนา เงื่อนงำต่างๆถาโถมเข้ามา และตอนท้ายหนังก็ไม่ทำให้ผิดหวังกับปมประเด็นต่างๆ สร้างบรรยากาศใส่อัดอารมเข้ามาให้ลุ้นไปกับพระเอกได้อย่างไม่น่าเบื่อ พร้อมจะช่วยพระเอกแก้ไขปมปริศนาไปด้วยกัน
![](https://static.wixstatic.com/media/d89829_8d752eec71c543a3824f42e1f97b2dff~mv2.jpg/v1/fill/w_474,h_239,al_c,q_80,enc_auto/d89829_8d752eec71c543a3824f42e1f97b2dff~mv2.jpg)
![](https://static.wixstatic.com/media/d89829_ce2a414f93da4c3e9b9f004b5fdeda08~mv2.jpg/v1/fill/w_512,h_288,al_c,q_80,enc_auto/d89829_ce2a414f93da4c3e9b9f004b5fdeda08~mv2.jpg)
Cast: พระเอก vs นางเอก เอาไปร้อยเต็มร้อยเลย เคมีเข้ากันมากกก ทั้งสองต่างปาเสน่ห์ความใคร่ใส่กันอย่างไม่ยั้ง ด้วยความที่ทั้งคู่มีแรงดึงดูดทางเพศอย่างล้นเหลืออยู่แล้ว มาเจอบทโรแมนติกที่ผู้กำกับสรรค์สร้างให้กับคู่นี้ที่สามารถบรรยายคำว่า "เนื้อคู่" ได้อย่างไร้ที่ติ
เสริมหน่อย:
ที่ต้องพูดถึงเลยคือ การใช้ความทันสมัยของภาพโฮโลแกรมทำให้ฉากสถานีรถไฟแกรนด์เซนทรัลออกมางดงามมาก รวมถึงการคุมโทนสีของหนังที่ให้ความรู้สึกนุ่มลึกตลอดเรื่องอย่างที่เขาโฆษณาจริงๆ
สรุป:
6/10 ทุกอย่างดูจะลงตัวไปหมด แต่ก็ต้องยอมรับว่า ประเด็นเนื้อคู่กับดวงดาว และความบังเอิญต่างๆที่เกิดขึ้นยังไม่สามารถทำให้คนดู อิน ไปกับเรื่องราวเท่าไหร่นัก ดูแค่เพลินแต่ไม่สามารถเข้าไปเป็นส่วหนึ่งของหนังได้เลย
หนังรักอีกเรื่องที่สามารถเสพความโรแมนติกของคู่พระนาง และความทันสมัยของการเล่าพล๊อตเรื่อง แต่สำหรับความพยายามที่จะทำให้คนดูอินไปกับเรื่องราวนั้นยังห่างไกลคำนั้นอยู่มาก
- Nice to share my life with you - ••••• Mickey Fest •••••
Comments