เมืองมัลลิกา รศ.124
มีอยู่ช่วงนึงที่กระแสการแต่งชุดไทยมาแรง คนไทยเริ่มสนใจการแต่งชุดไทยมากขึ้น กระแสแรงจนพวกเราสนใจจะไปงานอะไรสักอย่างที่ลพบุรีทีมีการแต่งไทยทั้งเมือง แต่มาสะดุดกับที่นึ่เข้าซะก่อน "เมืองมัลลิกา"
"เชิญจอดรถด้านในขอรับ" พนักงานโบกรถกล่าวทักทายพวกเรา
เมืองมัลลิกา รศ.124 เป็นสถานที่ท่องเที่ยวจำลองเมืองไทยในยุคเก่าขึ้นมา สิ่งก่อสร้าง บรรยากาศ อาหารการกินถูกจำลองให้เหมือนกับยุคสมัยนั้นให้มากที่สุด แต่ถ้าแค่นั้นก็ไม่แตกต่างกับอีกหลายที่ที่มีมาก่อนหน้านี้ แต่ที่นี้กลับทำได้แตกต่างโดยให้นักท่องเที่ยวเองได้แต่งตัวเป็นคนในสมัยนี้จึงทำให้รู้สึกเข้าไปอยู่ในเมืองนั้นสมัยนั้นจริงๆ นอกจากนั้นพนักงาน คนขายของเองทุกคนก็ได้รับการเทรนเรื่องการใช้คำเป็นอย่างดี ถ้าตอนนี้เท่าที่รู้ก็คงจะมีแต่นี่ที่เดียวที่ให้ความรู้สึกแบบนี้ได้
การเข้าท่องเที่ยวที่นี่นักท่องเที่ยวสามารถเลือกได้ว่าจะแต่งตัวหรือไม่ หรือจะเข้าไปในเมืองด้วยชุดตะวันตกก็ไม่มีใครว่า แต่ส่วนใหญ่เท่าที่ดูทุกคนดูจะตื่นเต้นกับการแต่งชุดไทยเดินในเมืองมัลลิกามากกว่า ไหนๆก็มาแล้วมันต้องเต็มที่ไปเลยและดีใจทีเพื่อนๆคิดเหมือนกัน
งานนี้เราได้ซื้อตั๋วมาแล้วจากงานไทยเที่ยวไทย เลยเอาตั๋วไปแลกบัตรผ่านประตูและคูปองเช่าชุด แล้วก็ตรงไปที่ห้องแต่งตัวทันที
"มันเยอะมากกกกกกกกก" ในห้องแต่งตัวเสื้อผ้ามากมายหลากหลายสีมีให้เลือกเอาไปจับคู่กันได้อย่างอิสระ แต่ถ้าใครมั่นใจว่าจะเขามายืนงงงงไม่รู้จะเลือกแบบไหนไม่ตัองกลัวเลย เพราะจะมีพนักงานอัธยาศัยดีมากมาคอยช่วยแนะนำให้อย่างละเอียด
ซึ่งลำดับขั้นตอนง่ายๆในการเช่าชุดคือ
•เลือกแบบ
•เลือกสี
•จ่ายเงิน เบิกเครื่องประดับ เบิกร่ม
•รอคิวเข้าห้องแต่งตัว แค่นั้น
การเลือกแบบชุดจะมีรูปภาพชุดแต่ละประเภทแปะไว้ เราก็ชี้ไป จนท.จะบอกว่าต้องหยิบกี่ชิ้น อะไรบ้าง เช่น ชุดสไบก็จะให้หยิบสไบกับผ้าโจงเลือกสีตามทีชอบได้แล้วก็ไปชำระเงินและรับคูปองเครื่องประดับและร่ม รอคิวเรียกเข้าห้องแต่งตัว ในห้องก็จะมีน้องพนักงานรออยู่เพื่อแต่งตัวให้ การผูกผ้าโจงนั้นมันไม่ง่าย เพราะฉะนั้นอย่ากลัวว่าต้องแต่งเอง :) ปะ เข้าเมืองกันเถอะ
เอ่อลืม ก่อนเข้าเมืองก็ควรต้องแลกเงินก่อนเพราะในเมืองไม่ได้ใช้เงินสมัยนี้เหมือนเราๆของกินของใช้ข้างในล้วนต้องใช้เงิน ไปสี่คนแลกไปห้าร้อยบาท ใช้หมดพอดิบพอดี ของกินข้างในราคาไม่ถูกไม่แพงมากเกินไปสำหรับสถานที่ท่องเที่ยว แต่บรรยากาศร้าน ถ้วยจานและโดยรวมนั้นคุ้มกับราคาแล้ว
หน้าประตูจะมีรถเจ้กให้เช่าเที่ยวละ 50 บาท นั่งได้1คน ไปส่งที่ประตูหลังของเมือง หรือจะไปขึ้นจากที่ประตูหลังของเมืองแล้วมาลงด้านหน้าก็ได้ "เดินก่อนก็ได้ครับ ตั๋วรถเจ้กไว้ซื้อทีหลังก็ได้ เผื่อเปลี่ยนใจจะได้ไม่เสียตังฟรี" พนักงานแนะนำอย่างจริงใจเพราะกลัวว่าเราอาจอยากเดินมากกว่า
"ของกินที่นี่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตาแต่คัดสรรค์รสชาติที่ถูกปากมารวมไว้แล้วด้วย"
ด้านในเต็มไปด้วยร้านขายของกินของใช้ การเที่ยวที่นี่คงต้องเป็นกลุ่มที่ชอบการเดินชมบรรยากาศ เดินคุยนั่งเม้ากับเพื่อนๆ ถ่ายรูปกันไปเรื่อยๆมากกว่า แวะนั่งดื่มน้ำ แวะทานน้ำแข็งใส แวะทานส้มตำ ไก่ย่าง ของกินที่นี่ไม่ได้มีดีแค่หน้าตาแต่คัดสรรค์รสชาติที่ถูกปากมารวมไว้แล้วด้วย
เราใช้เวลาที่นี่ประมาณ สามชั่วโมงซึ่งก็ยังเดินไม่ทั่วสักทีเดียวแต่ด้วยความที่กลัวจะถึงบ้านดึกเกินไปจึงตัดสินใจกลับบ้านดีกว่า หน้าเดินไปคืนเสื้อและอุปกรณ์ต่างๆขังรถกลับเมืองกรุงปัจจุบัน
"ถ่ายกับรถได้เลยครับ ผมทำท่ายกให้ไม่คิดเงิน"
พนักงานประจำรถเจ้กบอกกับเรา
ที่เมืองมัลลิกาเราเสียค่าเข้าและค่าเช่าเครื่องแต่งกายกันละคนละ 300 บาท ค่ากินรวมน้ำแล้วอาหาร 125 บาท รวมหมดไปคนละ 425 บาท พวกเราได้ราคานี้จากงานไทยเที่ยวไทยซึ่งราคาปกตินั้น
ค่าเข้า 300
ค่าเช่าชุด 100-300 บาทแล้วแต่ชุดที่เลือก
ถามว่าแพงไปไหมราคานี้ ถ้าลองเทียบกับต่างประเทศกับการใช่ชุดประจำชาติของเขาแล้วถ่ายรูป ราคาไม่ต่ำกว่า 1000 บาทไทยแน่นอน กับที่เมืองมัลลิการาคาไม่ถึงพัน กับการได้แต่งชุดประจำชาติเราเองสักครั้งนึง พร้อมเดินในเมืองที่จำลองมาอย่างฟิน บวกกับพนักงานพ่อค้าแม่ค้าทุกคนมี่ได้รับการเทรนเรื่องการบริการ การแต่งกายและเทรนการใช้ภาษาไทยโบราณมาอย่างดี หลังจากได้สัมผัสแล้วมันคุ้มแสนคุ้มกับสิ่งที่เราเรียกว่า"ประสบการณ์ชีวิต" ฟาสให้ได้กับผู้จัดผู้บริการที่ทำการบ้านมาอย่างเข้มข้นขนาดนี้ หากแต่มีข้อแนะนำเล็กๆน้อยเช่น
-แดดร้อนมากกกกก เดินไม่กี่ชั่วโมงก็เพลียแดดแล้ว
-อยากให้มีกระเป๋า และรองเท้าให้เช่าด้วยเลย เอาให้ครบ
-นอกจากของขายแล้ว น่าจะจัดแหล่งความรู้บ้าง หรือฉายวิดิทัศน์ไรไปเกี่ยวกับยุดนั้นก่อนจะเข้าไปสัมผัสของจริงในเมือง น่าจะสร้างความอินได้มากขึ้น
เท่านี้ละครับ นอกนั้นแล้วเมืองมัลลิกามาไกลมาก ต้องขอชื่นชมที่มีคนกล้าทำอะไรไทยๆแบบนี้ขึ้นมา ยังคุยกับเพื่อนๆว่าถ้ามีโอกาสครั้งหน้าจะซื้อแบบมีมื้อเย็นชมนาฏศิลป์ไทยด้วย เอาให้เต็มรูปแบบไปเลย
หวังว่ารีวิวนี้จะให้ข้อมูลกับทุกคนได้ตัดสินใจออกไปเที่ยว ออกไปใช้เวลาให้หมดไปกับความสุขกับเพื่อนๆเหมือนที่ฟาสมี ตามอ่านในโพสหน้านะครับว่าจะไปเที่ยวไหนอีก :)
#เมืองมัลลิกา
ประตูเมืองมัลลิกา
บรรยากาศหน้าเมืองก่อนกลับบ้าน อารมมันได้เลย
อย่าทิ้งขยะกันนะเจ้าค่ะ
น้องพนักงานเฝ้าหน้าห้องแต่งตัว
จะถ่ายมุมไหนก็สวย
เขาตั้งใจยกรถเพื่อให้ทุกคนได้ถ่ายภาพ ใจดีมากๆ
แม่ซาร่ายิ้มเริงร่าตลอดวัน
รูปนี้น้องคนที่ยกรถเป็นคนถ่ายให้อีก
บริการรถเจ้กเที่ยวละ 50 บาท
แดดแรงๆถ่ายรูปสวย แต่อย่างแสบ
ผลไม้ไหมเจ้าคะ สดๆเลยค่ะ
ตรงนี้เป็นอาคารแรกหลังจากผ่านประตูเมืองมา มีขายของประปราย
แม้แต่เบื้องหลัง การทำงานก็ยังมีความย้อนยุค
ป้าพิมกำลังนั่งย่างข้าวเกรียบว่าว
น้ำดื่มมีบริการฟรีทุกร้านเลยเจ้าค่ะ แค่ซื้อกระบอกไว้
บริเวณนี้เป็นบริเวณร้านอาหาร หิวก็เดินมาโซนนี้
กระเพาะปลา ไก่ย่าง มาขายทางเรือนะ
ส้มตำไทยไข่เค็ม หน้าตาน่ากินไหมละ
ไก่ย่างเด็ด น้ำจิ้มอร่อย
ไก่ย่างน่ากินไหมละ
นี่กระเพาะปลามาเป็นเรือเลย
พ่อค้าแม่ค้าอัธยาศัยดีมาก
ย่างไก่ในเรือกันให้ดูเลย
ท่านั่งก็ต้องเยอะขนาดนี้เหรอ
มาขนาดกำลังพอดี
มีความสุขสนุกสนานกันมากแม่ค้า
บรรยากาศการขายของ มองแล้วมีความสุขจัง
คิดถึงคนไทยสมัยก่อนๆ เขาจะมานั่งกินน้ำแข็งใสกันไหมนะ
แม่เจ้าโว้ยย แต่ละนาง
ข้าเหงาเหลือเกิน
สองแม่นางจิกกล้องจะแตก
ท่านพี่ของข้าหายไปไหนนะ บนเรือนเราก็ไปถ่ายรูปได้
เรือนเดียวกัน หน้าต่างเดียวกัน แต่เยอะกว่ามาก
ชอบโทนสีวันนี้ แดงๆเขียวๆใส่แล้วเข้ากันดีอย่างบอกไม่ถูก
หญิงชาววังกับท่าโพสหวานๆ
หญิงชาววังเขากำลังเม้าถึงคุณหลวงบ้านนู้น
มีของขายในชะลอม ถือกลับบ้านคงเท่นัก
คนเดินไม่ค่อยเยอะมาก เพราะแดดร้อนมากกกก
เดินเมือยๆก็มีนวดนะ
อยู่กันสามคนชุดสีนี้สวยจัง
กล้วยปิ้งไหมจ๊ะ ไม่รู้ว่าสุกด้วยไฟในเตาหรือแดด!!!
น้ำมะนาวเย็นชื่นใจ
มีน้ำสมุนไพรไทยๆให้เลือกเพียบ
ตรงนี้น่าจะเป็นจตุรัสกลางเมือง
ลูกไหนโหลไหน
หญิงคุณมาตี้
หญิงซาร่าเหม่อมองคิดชายใด
เป็นรูปที่แอบหลอนๆอยู่นะ
ยินดีต้อนรับสู่เมืองมัลลิกา
ถ้าเปลี่ยนรองเท้าได้ด้วยนี่จะเต็มร้อยเลย
ไปค่ะ พร้อม
เงินที่แลกมา อันนี้คือหนึ่งร้อยบาท
rate แลกตามนี้เลย
มีตู้ล๊อกเกอร์ให้บริการฟรีนะ ขอกุญแจเขาได้เลย
เสื้อผ้าเสร็จแล้ว มาต่อทีหน้าและผม
เราเสร็จก่อนเพื่อ ขอเซลฟี่ก่อน
"คิวที่ยี่สิบสี่ยี่สิบห้าขอรับ"
สาวๆจะมานั่งรอเรียกคิวก่อนหน้าห้องแต่งตัว
มีร่มให้เลือกหลายสีเลย
เอาชุดที่หยิบมาให้นางสนมตรงนี้คิดเงินรับคูปองร่ม บัตรคิวแต่งตัวและกุญแจล๊อกเกอร์
ขอเลือกแบบนี้สวยดี
สไบมีสีเลือกเยอะมากกก
เส้อผู้ชายก็มีหลายสีให้เลือกเหมือนกัน
ลานจอดรถมีเยอะอยู่ น่าจะเพียงพอกับคนที่มา
ก่อนเข้าเมืองไปซื้อตั๋วก่อน
ประตูเมืองมัลลิกา มีความอลังอยู่ไม่น้อย
จบแล้วรีวิวมัลลิกา หวังว่าจะชอบกันนะครับ ทริปหน้าไปไหนดี ^^
